วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อุปกรณ์ต่อพ่วง

                                              webcam หรือ กล้อดิจิตอล



เว็บแคม (webcam) หรือ เว็บแคเมรา (web camera) เป็นกล้องที่ส่งสัญญาณภาพผ่านทางคอมพิวเตอร์สำหรับใช้งานผ่านทางเวิลด์ไวด์เว็บทางเมสเซนเจอร์หรือทางซอฟต์แวร์อื่น

ประเภทของเว็บแคม 
อุปกรณ์อย่างกล้องเว็บแคมไม่ใช่ว่าจะเหมือนกันหมดทุกตัว แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อจะมีลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปตามแต่ผู้ผลิตจะคิดค้นและออกแบมาให้เหมาะสมกับการใช้งานอย่างไร ซึ่งสามารถแบบประเภทของเว็บแคมได้ดังนี้

การเลือกซื้อกล้องเว็บแคม 
ขั้นตอนแรกเราต้องรู้ว่าจะนำกล้องเว็บแคม มาใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ประเภทใด ถ้าเป็นโน้ตบุ๊กก็ต้องเป็นกล้องเว็บแคม
ขนาดเล็กกะทัดรัด และสามารถติดตั้งบนจอแอลซีดีของโน้ตบุ๊กได้ แต่ถ้าใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปก็ แนะนำรุ่นที่มี
ขาตั้งที่มั่นคงสามารถวางบนจอมอนิเตอร์

เมื่อเลือกรูปแบบของกล้องได้แล้ว ก็มาเลือกตามคุณสมบัติภายในของกล้องเว็บแคมโดยเลือกจากชนิดของเซ็นเซอร์ที่ใช้กับภาพ โดยจะมีให้เลือกเป็น CMOS ในแบบ CIF และ VGA ซึ่งแนะนำว่าเป็นแบบ VGA จะให้ความละเอียดที่สูงกว่า หรือถ้าต้องการความละเอียดที่มากกว่านี้ ก็เลือกเซ็นเซอร์แบบ CCD จะดีกว่าแต่ทั้งนี้ราคาก็จะเพิ่มสูงขึ้น ตามชนิดของเซ็นเซอร์ และ
ความละเอียดของตัวกล้องเว็บแคม
                                                    Memory



           Memory (หน่วยความจำ) เป็นอุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ ที่ใช้เก็บคำสั่ง และข้อมูลที่ไมโครเซสเซอร์ สามารถเข้าถึงได้เร็ว เมื่อคอมพิวเตอร์ อยู่ในการทำงานปกติ หน่วยความจำจะเก็บส่วนใหญ่ของระบบปฏิบัติการ และโปรแกรมประยุกต์บางส่วนหรือทั้งหมด และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน หน่วยความจำมักจะใช้ ในความหมายเดียวกับหน่วยความจำชั่วคราว หน่วยความจำชนิดนี้ ตั้งอยู่บนไมโครซิปหนึ่ง หรือมากกว่า ใกล้กับไมโครโพรเซสเซอร์ในคอมพิวเตอร์ การมีขนาด RAM ยิ่งมากจะช่วยลดความถี่ของคอมพิวเตอร์ ในการเข้าถึงคำสั่ง และข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์ที่ใช้เวลามาก บางครั้งหน่วยความจำได้รับการแยก จากการเป็นที่เก็บ หรือตัวกลางทางกายภาคที่ใช้เก็บข้อมูล จำนวนมากที่มากกว่า RAM และอาจจะไม่ต้องการในเวลานั้น อุปกรณ์การเก็บรวมถึงฮาร์ดดิสก์, ฟล๊อปปี้ดิสก์, CD-ROM และระบบเทปสำรองข้อมูล คำว่า auxiliary storage, auxiliary memory และ secondary memory ใช้สำหรับที่เก็บข้อมูลประเภทนี้
หน่วยความจำอีกชนิดที่เข้าถึงได้เร็ว คือ read-only-memory (ROM), programmable ROM และ erasable programmable ROM หน่วยความจำเหล่านี้ใช้เก็บโปรแกรมพิเศษและข้อมูล เช่น basic input/output system (BIOS) ซึ่งคอมพิวเตอร์ต้องการตลอดเวลา
             ประเภท
             1. Non-Volatile อันนี้คือไม่อาศัยไฟเลี้ยง 
เช่น ROM ในเครื่อง และ CD-ROM , DVD-ROM 
รอมในเครื่องใช้ทำอะไร เก็บข้อมูล ที่ใช่ในการจัดการเครื่อง ก็คือ ไบออส (BIOS) นั่นเอง
รอมในเครื่องเนี่ย มันก็ยังแบ่งออกไปอีกได้หลายประเภท
             1. ประเภทที่สามารถโปรแกรมใหม่ได้
             2. โปรแกรมไม่ได้ 
เพราะ ROM ในเครื่องเนี่ย ไม่สามารถใช้การเขียนโปรแกรมแบบธรรมดาได้ ต้องอาศัย แสง ในการโปแกรมมัน
             2.Volatile          คือถ้าเป็นหน่วยความจำที่เก็บข้อมูลไว้แล้ว หากไฟฟ้าดับ คือไม่มีไฟฟ้าจ่ายให้ กับวงจรหน่วยความจำ ข้อมูลที่เก็บไว้จะหายไปหมด

              การเลือกซื้อ Memory


Memory Test
  1. ตรวจสอบ Memory ของเครื่องคอมฯ ของเราก่อนว่า รองรับรุ่นไหนได้บ้าง (เราสามารถใช้โปรแกรมช่วยตรวจสอบได้ว่า Memory ของเราเป็นรุ่นไหน โดย download freeware ของ CPUid ชื่อ CPUZ 
    (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ ตรวจสอบ spec คอมฯ ง่ายๆ ด้วย CPU-Z )

    เมื่อ download มาได้แล้ว ให้ unzip ก่อน จากนั้นให้คลิกที่ไฟล์ชื่อ CPUZ.exe จะได้หน้า CPU-Z คลิกเลือกแท็ป Memory ให้ดูช่อง Type เป็นอะไร เช่น SD-RAM, DDR, DDR2 หรือ FB-DIMM เป็นต้น
  2. ตรวจสอบว่าปัจจุบัน Memory ของเรามีขนาดเท่าไหร ปกติจะอัปเกรดได้สูงสุดแค่ 4 GB เท่านั้น (เพราะ Windows ทั่วไป เห็นแค่นั้น)
  3. ตรวจสองให้ดีก่อนว่า ช่องที่ใช้สำหรับเสียบ Memory หรือ RAM ยังว่างเท่าไหร่
  4. ตรวจสอบให้ดีก่อนว่า ช่องที่ใช้สำหรับเสียบ Memory หรือ RAM ต้องเสียบเป็นคู่หรือไม่

ข้อควรทราบที่ต้องเข้าใจกันกอ่น

การเพิ่ม Memory หรือ RAM จากเดิมเป็นอีกเท่าตัว ไม่ใช่หมายความว่า คอมพิวเตอร์ของคุณจะทำได้ได้เร็ว เท่าตัว น่ะครับ ต้องขึ้นกับปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย แต่โดยพื้นฐานแล้วจะทำให้เครื่องคอมฯ ทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น